อยากเป็นมือกลอง ตีกลองอย่างเดียวไม่พอ ต้องหัดสังเกตุดูแลและซ่อมบำรุงมันเป็นด้วย
ตอนสมัยครูเริ่มต้นตีกลองใหม่ๆ ครูชอบที่จะมองข้อต่อและตัวจับต่างๆของกลองเวลาไปห้องซ้อม ห้องซ้อมแต่ละห้องก็ใช้กลองไม่เหมือนกัน เลยกลายเป็นข้อดีที่จะได้สังเกตุกลองหลากหลายยี่ห้อ
แล้วจะสังเกตุไปเพื่ออะไรล่ะ คำตอบหลักๆก็เพื่อ
1.จะได้แยกเอกลักษณ์ของแต่ละยี่ห้อออกไง ว่ายี่ห้อไหนเป็นยังไง ทั้งข้อต่อตัวล็อคและหลักกลอง คราวนี้ถ้าสมมุติว่าไม่มียี่ห้อติดไว้ แค่มองก็รู้ว่ากลองชุดนี้เป็นของยี่ห้ออะไรแล้ว
2.จะได้รู้ว่ามันปรับยังไงได้บ้าง ยิ่งถ้าเป็นพวกขาฉาบ ต้องยืดต้องหด จะก้มรึเงย และต้องปรับยังไงถึงจะได้ตำแหน่งที่เราชอบ
3.เพื่อซ่อมและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ เช่นถ้ามันเสีย จะหาอะไหล่อะไรมาแทนได้บ้าง อีกกรณีคือถ้าเกิดตอนไปเล่นดนตรี แต่ดันไปเจอกับขาตั้งที่พัง ปรับความสูงไม่ได้ เราอาจจะหาตัว *memory lock* ของขาตั้งอันอื่นที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเดียวกันมาสวมล็อคแทนไปก่อนได้
*Memory Lock คือตัวล็อคชั้นที่สอง ตัวล็อคนี้มันขยับได้เพื่อเอาไว้ล็อคเสริมจากจุดล็อคหลัก เอาไว้จดจำตำแหน่งจุดล็อค เพื่อเวลาถอดประกอบแล้วกลับมาใส่ใหม่ มันจะกลับมาอยู่ในตำแหน่งล็อคเดิมนี้ อีกทั้งช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ตัวล็อคหลักแน่นขึ้นและไม่ขยับดิ้นไปดิ้นมาอีกด้วย (ดูภาพประกอบ)
4.ใครเค้าเอากลองเก่ามาขายเราก็จะได้รู้ว่า เค้าเปลี่ยนอะไรมาบ้าง จะได้ไม่โดนหลอก บ้างครั้งแค่เปลี่ยนหนังกลอง Bass Drum (หนังด้านหน้า) ให้เป็นยี่ห้อดีๆ แล้วถ่ายรูปส่งมาแชร์ขายในโลกโซเชี่ยล ถ้าไม่สังเกตุดีๆ ก็จะเข้าใจผิดได้นะครับ
ลองฝึกสังเกตุ และดูแลกลองกันด้วยนะ คือเจอที่ไหนก็ต้องดูแลมัน ไม่ว่าจะเป็นของเรารึไม่ ตั้งแต่โบราณเค้าสอนมาว่าเครื่องดนตรีนั้นมีครู จริงๆแล้วก็แค่อยากให้คนเล่นดูแลเครื่องดนตรีนั้นให้ดี ไม่ทิ้งขว้าง เพราะเมื่อก่อนเครื่องดนตรีอาจจะไม่แข็งแรงเท่าสมัยนี้ มันอาจจะพังรึเสียงเพี้ยนก็ได้ (ของสมัยนี้ก็ใช่ว่าแข็งแรงนะ บิดไปบิดมาพังคามือก็มี) พอรู้อย่างนี้ก็อย่าลืมดูแลและสังเกตุกลองรอบตัวของเพื่อนๆกันด้วยนะ




 
 



 
 
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น